อัยการให้ตำรวจสอบสวน รังสิมันต์ โรม เพิ่ม คดี ม.157 ปมอภิปรายค้ามนุษย์พาดพิงมูลนิธิป่ารอยต่อใหม่ เนื่องจากเห็นว่าสำนวนการสอบสวน พฤติการณ์ และข้อหายังไม่สมบูรณ์ นัดสอบปากคำ 31 มี.ค.10 โมง ข่าวศิลปิน
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 มี.ค. 2565 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.หญิง พฤกษา บุญดำเนิน สว.(สอบสวน) สน.บางขุนนนท์ ภายหลังจากที่ถูกออกหมายจับจากการที่อภิปรายเรื่องการค้ามนุษยษ์ชาวโรฮีนจาและการวิ่งเต้นตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ (ตั๋วช้าง) และพาดพิงถึงมูลนิธิป่ารอยต่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานมูลนิธิฯ ในสภาฯ เมื่อต้นปี 63
ต่อมาเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนนนท์ ได้ควบคุมตัว นายรังสิมันต์ ขึ้นรถตู้ตราโล่ เพื่อนำตัวส่งอัยการศาลแขวงตลิ่งชัน โดยมีกลุ่มมวลชนเดินทางตามไปที่ศาลเพื่อรอฟังผลการตัดสินของอัยการด้วย
ต่อมา เวลา 11.00 น. ที่ศาลแขวงตลิ่งชัน พนักงานสอบสวนสน.บางขุนนนท์ ได้นำตัวนายรังสิมันต์ โรม ส่งอัยการศาลแขวงตลิ่งชัน พิจารณาสั่งคดี
นายรังสิมันต์ กล่าวภายหลังฟังการพิจารณาคดีว่า อัยการได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนไว้ตรวจสอบ และให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำตนเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าสำนวนการสอบสวน พฤติการณ์ และข้อหายังไม่สมบูรณ์ นัดสอบปากคำอีกครั้งในวันที่ 31 มี.ค. เวลา 10.00 น. ส่วนประเด็นในการสอบสวนก็จะเป็นเรื่องพฤติการณ์ในการทำความผิดและข้อหาที่อาจจะมีเข้ามาเพิ่มเติม เบื้องต้นยังไม่ได้มีการนัดฟังคำสั่งจากทางอัยการ แต่คาดว่าจะมีการนัดอีกครั้งในวันที่ 21 เม.ย. 65 หลังจากนี้พรรคก้าวไกลก็จะต้องพิจารณาเรื่องการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
ทั้งในชั้นของตำรวจและศาล ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย (ตามมาตรา 157) เพราะยอมรับว่าค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมศาลถึงอนุมัติออกหมายจับ ตนอยากรู้เหมือนกันว่าผู้พิพากษาท่านใดเป็นผู้เซ็นอนุมัติหมายศาล ซึ่งที่ต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพราะต้องการให้เป็นบรรทัดฐานว่า คดีที่ถูกนายสั่งมาจะไม่เป็นที่ยอมรับอีกต่อไป ฝากบอกตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่า ตนเข้าใจว่าบางคนจำใจต้องทำเพื่อปากท้อง เพื่อครอบครัวในสังคมแบบนี้ แต่ตนจะบอกว่าหากพวกท่านยังทำแบบนี้ประชาชนจะเสื่อมศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม และจะทำให้กลไกพังทั้งระบบ และต่อไปจะไม่เหลือคุณค่าอะไรเลย
ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วโรม ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี ไม่จำเป็นที่จะต้องออกหมายจับด้วยซ้ำ ซึ่งสะท้อนได้อย่างชัดเจนถึงความผิดปกติในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ การทำงานหลังจากนี้ของพรรคก็คงต้องทั้งรุกทั้งรับ เพราะอาจจะมีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากศาลด้วย
ฝากไปยังรัฐบาล "จับหนูตัวเดียวอย่าเผาทั้งนา" สิ่งที่คุณจะทำ คือ การปิดปากฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องการทำให้กลัว ทำให้กลไกประชาธิปไตยไม่ทำงาน ในการที่ตรวจสอบหรือถ่วงดุลรัฐบาลเป็นสิ่งที่ ส.ส.ต้องทำ อย่าให้ตนต้องพูดแค่สิ่งที่รัฐต้องการให้พูด แต่ต้องให้ตนพูดในความเป็นจริง ที่เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน ตนไม่หมดกำลังใจที่จะเดินหน้าทำงานต่อ ไม่กังวล ไม่ประมาท ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้กำลังใจ และขอให้ทุกคนจับตามองในเรื่องนี้ต่อไป เพราะขนาดผู้แทนราษฎร ยังถูกดำเนินคดีขนาดนี้แล้วกับพี่น้องประชาชนจะขนาดไหน
Comments
Post a Comment